วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560

โยคะ..คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร


มหัศจรรย์  "โยคะ" (Yoga) 
 
     "โยคะ" ในสังคมไทยปัจจุบันเป็นที่รู้จัก และนิยมฝึกฝนกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย   เนื่องจากการฝึกโยคะ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์  และสามารถฝึกฝนด้วยตัวเองได้  โดยใช้สถานที่ใดก็ได้ตามแต่สะดวก  อาจจะเป็น ชายทะเล ริมสระว่ายน้ำ ภายในบ้าน หรือแม้แต่ระเบียง ก็มีให้เห็นตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งถือว่าสะดวกอย่างมาก และมีประโยชน์ต่อการพัฒนาร่างกาย และจิตใจ เพื่อต่อสู้กับสังคมยุคปัจจุบันเลยทีเดียว   แต่ยังมีบางท่านที่ยังไม่ทราบว่า "โยคะ" คืออะไร?  มีประโยชน์อย่างไร  วันนี้ ปัทมาโยคะ จะขออธิบาย ดังนี้ค่ะ....     


         โยคะ คือ การฝึกฝนร่างกายและจิตใจ ด้วยชุดท่าที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายประกอบกับการหายใจ ทำให้เกิดสมาธิและความผ่อนคลาย ซึ่งเป็นการฝึกฝนเพื่อให้สุขภาพร่างกายและจิตใจเกิดความสมดุล


ประโยชน์ของการฝึกโยคะ

   โยคะ   เป็นการฝึกฝนร่างกายและจิตใจที่ผสมผสานระหว่างท่วงท่า ที่ใช้กำลังของร่างกายและควบคุมการหายใจร่วมกับการใช้สมาธิและการผ่อนคลาย โดยมีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ฝึกมากมายดังต่อไปนี้
  • เพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย การเล่นโยคะจะช่วยฝึกและพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้มีความแข็งแรง เช่น กล้ามเนื้อแกนกลาง แขน ขา ก้น และหลัง พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ และที่สำคัญเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้เกิดแรงกระแทกน้อย ซึ่งจะไม่ส่งผลให้ข้อต่อเกิดความเสียหาย โดยมีส่วนช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นและเกิดความสมดุล 
  • ลดความเครียด จากการศึกษาวิจัยมากมายได้ระบุว่าการฝึกโยคะอาจมีส่วนช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล และยังอาจช่วยพัฒนาอารมณ์และความสุขทางใจโดยรวมของผู้ฝึกได้อีกด้วย 
  • ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือภาวะเรื้อรัง การฝึกโยคะอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคหืด โรคข้ออักเสบ โรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ นอกจากนั้น ยังอาจช่วยบรรเทาภาวะเรื้อรังบางชนิด เช่น ภาวะซึมเศร้า อาการเจ็บปวด ภาวะวิตกกังวล และอาการนอนไม่หลับ
  • ช่วยอาการปวดหลัง จากการศึกษาวิจัยพบว่า การฝึกโยคะอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดหลังเรื้อรังได้ โดยผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังส่วนล่างเรื้อรัง เมื่อได้ฝึกโยคะพบว่าอาการปวดหลังดีขึ้น นอกจากนั้น มีการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรังที่ได้รับการฝึกโยคะเพียง 1 สัปดาห์ จะมีอาการที่ดีขึ้นกว่าผู้ป่วยที่ได้รับการออกกำลังกายชนิดอื่น ๆ นั่นก็เป็นเพราะการเล่นโยคะจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกายและกระดูกสันหลัง 
  • อาจช่วยเรื่องการเคลื่อนไหวและการประสานงานของกล้ามเนื้อผิดปกติในโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) จากการวิจัยพบว่าการฝึกโยคะมีส่วนช่วยพัฒนาการทำงานของร่างกายและอารมณ์ ซึ่งมีผลช่วยให้โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งมีอาการที่ดีขึ้นได้ โดยมีการศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ที่ฝึกโยคะทุกสัปดาห์ติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน สามารถช่วยให้อาการอ่อนเพลียหรือเหนื่อยล้าจากโรคดังกล่าวดีขึ้นพอ ๆ กับการออกกำลังชนิดอื่น 
  • อาจช่วยลดความตึงเครียด แล้วอาจเพิ่มโอกาสในการมีบุตรสำหรับผู้ที่มีบุตรยาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีคู่รักที่เลือกฝึกโยคะเพื่อลดความเครียดและเพิ่มโอกาสในการมีบุตรกันมากขึ้น ซึ่งจากการศึกษาวิจัยได้ระบุว่าการฝึกโยคะอาจมีผลดีต่อการเสริมสร้างภาวะเจริญพันธุ์ เพราะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และช่วยส่งเสริมการทำงานต่าง ๆ ของอวัยวะในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสของการมีบุตรได้ นอกจากนั้น ยังอาจช่วยให้การไหลเวียนโลหิตในส่วนอวัยวะที่เกี่ยวกับการสืบพันธุ์ดีขึ้น ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะที่สำคัญในร่างกายและการทำงานของฮอร์โมนดีขึ้น 
  • ช่วยบรรเทาอาการเมาค้าง โยคะเสมือนเป็นวิธีที่จะช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย และช่วยกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย โดยเฉพาะการฝึกท่ายืนด้วยหัวไหล่ (Shoulder Stand) ท่าคันไถ (Plow) และท่าปลา ซึ่งเป็นท่าที่เชื่อว่าช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์และเพิ่มกระบวนการเผาผลาญของร่างกาย จึงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเมาค้างได้อย่างรวดเร็ว 
  • ช่วยเพิ่มความจำให้ดีขึ้น เนื่องจากการฝึกโยคะเป็นการฝึกจิตใจอย่างหนึ่ง เสมือนเป็นวิธีที่ช่วยกำจัดขยะออกไปจากร่างกายและจิตใจ โดยมีส่วนช่วยในการลดความเครียดทางอารมณ์และร่างกาย เมื่อจิตใจมีความสงบ ปลอดโปร่งและมีสติ จึงทำให้สามารถจำอะไรได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งทำให้มีความคิดที่เป็นระบบและมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น 

        
           ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก   :  พบแพทย์#โยคะชำระโรค


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น